โปรโมชั่น
L I N E
Facebook
instagram

7 ข้อห้ามหลังดึงหน้าที่ควรระมัดระวัง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังการดึงหน้า (facelift) เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งในการดูแลตนเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากกระบวนการมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ซึ่งต่อไปนี้คือข้อห้ามหลังดึงหน้าที่ควรระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการฟื้นฟูสภาพผิว 

1. ห้ามสัมผัสหรือกดใบหน้าอย่างรุนแรง

การสัมผัสหรือกดใบหน้าอาจทำให้เกิดการบวมและฟกช้ำได้ การบำรุงรักษาบริเวณที่ทำการผ่าตัดควรทำด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการนอนหงายทับใบหน้า

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

  • เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต: ทำให้เลือดสูบฉีดไปยังแผลมากขึ้น อาจทำให้แผลเปิดออกหรือเลือดออกได้
  • เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย: อาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำมากขึ้น
  • เพิ่มเหงื่อ: ทำให้เชื้อแบคทีเรียมีโอกาสเข้าสู่แผลได้ง่าย
  • การเคลื่อนไหวที่รุนแรง: อาจทำให้แผลฉีกขาดหรือเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่สวยงาม

กิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

  • การยกของหนัก: รวมถึงการแบกของ หรือการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงเยอะ เช่น เวทเทรนนิ่ง
  • กีฬาที่ต้องใช้แรงกระแทก: เช่น วิ่ง กระโดด บาสเก็ตบอล ฟุตบอล
  • การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง: เช่น การเต้นแอโรบิก ปั่นจักรยานเร็ว
  • การยืดตัวที่รุนแรง: อาจทำให้แผลตึงและเจ็บ

เมื่อไหร่จึงจะกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติ?

  • ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกลับมาออกกำลังกาย
  • เริ่มจากเบา ๆ: หลังจากได้รับอนุญาตจากแพทย์แล้ว ควรเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ก่อน เช่น เดินเร็ว หรือโยคะ
  • ค่อย ๆ เพิ่มความหนัก: เมื่อร่างกายปรับตัวได้ดีแล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายทีละน้อย

2. ห้ามยกของหนักหรือออกกำลังกายอย่างหักโหม

กิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากอาจทำให้เกิดการเคลื่อนของเนื้อเยื่อหรือรอยเย็บหลุดได้ ควรรอให้แผลหายดีเสียก่อนจึงเริ่มออกกำลังกายหรือทำงานหนัก

เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยง

  • ป้องกันแผลเปิด: การยกของหนักหรือออกกำลังกายหนักจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและหัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งอาจทำให้แผลเปิดออกได้ง่าย
  • ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: การเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้เหงื่อออกมากขึ้น และเชื้อแบคทีเรียมีโอกาสเข้าสู่แผลได้ง่าย
  • ป้องกันรอยแผลเป็น: การเคลื่อนไหวที่รุนแรงอาจทำให้รอยแผลเป็นกว้างขึ้น หรือเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่สวยงามได้

กิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง

  1. ยกของหนัก: รวมถึงการแบกของ หรือการทำกิจกรรมบ้านที่ต้องใช้แรงเยอะ เช่น การซักผ้าปั่น
  2. กีฬาที่ต้องใช้แรงกระแทก: เช่น  วิ่ง กระโดด บาสเก็ตบอล ฟุตบอล
  3. การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง: เช่น  การเต้นแอโรบิก ปั่นจักรยานเร็ว
  4. การยืดตัวที่รุนแรง: อาจทำให้แผลตึงและเจ็บ

3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์สามารถลดประสิทธิภาพการฟื้นตัวของผิวหนังและเส้นเลือด ทำให้กระบวนการหายแผลช้าลง

เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยง

  • ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด: นิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์จะไปทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงบริเวณแผล ทำให้แผลหายช้า
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์จะลดภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอต่อการติดเชื้อ
  • ส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจน: ทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์จะยับยั้งการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลเป็นอาจไม่สวยงาม
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน: การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น การอุดตันของหลอดเลือด

ผลกระทบต่อการดึงหน้า

  • แผลหายช้า: ทำให้ต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: อาจทำให้แผลอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อรุนแรง
  • ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ: แผลเป็นอาจไม่สวยงาม ผิวหนังอาจไม่เรียบเนียน

4. ห้ามอาบน้ำร้อนหรือซาวน่า

ความร้อนจากน้ำร้อนหรือซาวน่าสามารถเพิ่มการอักเสบและบวมของผิวหนังได้ คุณควรรอให้แผลหายดีก่อนที่จะกลับมาใช้ซาวน่าหรืออาบน้ำร้อน

เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยง

  • เพิ่มการอักเสบและบวม: ความร้อนจากน้ำร้อนหรือซาวน่าจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้อาการบวมช้ำและอักเสบรุนแรงขึ้น
  • เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย: การเพิ่มอุณหภูมิร่างกายจะทำให้แผลหายช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ทำให้แผลเปิด: ความร้อนอาจทำให้แผลเปิดออกได้ง่ายขึ้น

ผลกระทบต่อการดึงหน้า

  • เพิ่มระยะเวลาการฟื้นตัว: อาการบวมช้ำจะหายช้าลง
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: แผลอาจอักเสบหรือเกิดการติดเชื้อได้
  • ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ: แผลเป็นอาจไม่สวยงาม

ระยะเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง

  • อาบน้ำร้อนและซาวน่า: ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • อาบน้ำ: สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ควรใช้น้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจัด และหลีกเลี่ยงการขัดถูบริเวณแผล
  • ประคบเย็น: การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและอักเสบ
  • ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด

5. หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด

แสงแดดสามารถทำให้แผลเป็นเห็นชัดขึ้นและทำให้ผิวหนังที่บอบบางเสียหายได้ ควรใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอหรือหลีกเลี่ยงการตากแดดจัดอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด

เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด

  • ทำความเข้าใจถึงอันตรายของแสงแดด: อธิบายให้ละเอียดขึ้นว่ารังสียูวีในแสงแดดสามารถทำอันตรายต่อผิวหนังที่กำลังสมานแผลได้อย่างไร เช่น ทำให้เกิดการอักเสบ รอยแดง รอยดำ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์
  • ผลกระทบต่อการสร้างคอลลาเจน: รังสียูวีสามารถยับยั้งการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าลงและอาจทำให้เกิดแผลเป็นที่ไม่สวยงาม
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง: แม้จะเป็นข้อมูลที่รุนแรง แต่การเน้นย้ำถึงความเสี่ยงนี้จะทำให้ผู้ป่วยตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันแสงแดดมากยิ่งขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ครีมกันแดด: แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีคุณสมบัติกันน้ำ เพื่อให้การป้องกันมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-20 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
  • เสื้อผ้าป้องกัน: แนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่น และสวมหมวกและแว่นตากันแดดที่มีบานปีกกว้าง
  • ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง: อธิบายว่าช่วงเวลาที่แสงแดดแรงที่สุดคือช่วง 10.00 น. – 14.00 น. ควรหลีกเลี่ยงการออกไปกลางแจ้งในช่วงเวลานี้
  • การดูแลแผล: นอกจากการป้องกันแสงแดดแล้ว ยังควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลแผลอื่น ๆ เช่น การทำความสะอาดแผล การเปลี่ยนผ้าพันแผล และการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล
  • ปรึกษาแพทย์: เน้นย้ำว่าควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น แผลมีอาการบวม แดง ร้อน หรือมีหนอง

6. ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง

หลังการดึงหน้า ผิวหนังจะไวต่อสารเคมีมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของกรด หรือการทำทรีทเมนต์หน้าที่อาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง

ทำไมต้องหลีกเลี่ยงสารเคมีแรงหลังการดึงหน้า?

  • ผิวบอบบาง: หลังการผ่าตัด ผิวหนังบริเวณที่ทำการผ่าตัดจะบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากเป็นพิเศษ สารเคมีแรงจะยิ่งทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ แดง หรืออาจทำให้แผลแย่ลงได้
  • ขัดขวางการสมานแผล: สารเคมีแรงบางชนิดอาจไปรบกวนกระบวนการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าลง และอาจเกิดการติดเชื้อได้
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น การอักเสบ หรือการเกิดรอยแผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ครีมที่มีส่วนผสมของกรด: เช่น AHA BHA Retinol ซึ่งมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองและลอก
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์จะทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม: น้ำหอมสังเคราะห์อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสี: สีสังเคราะห์อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและแพ้ได้

7. ห้ามนอนราบบนหมอนต่ำ

การนอนยกศีรษะด้วยหมอนสูงสามารถลดอาการบวมได้ ควรนอนในท่าที่ศีรษะสูงกว่าลำตัวเพื่อช่วยในการฟื้นฟูแผล

ทำไมต้องนอนยกศีรษะหลังการดึงหน้า?

  • ลดอาการบวม: การนอนยกศีรษะจะช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณใบหน้า ทำให้ลดอาการบวมช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น: การยกศีรษะจะช่วยให้ของเหลวที่เกิดจากการผ่าตัดไหลออกได้ดีขึ้น ทำให้แผลหายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ลดความรู้สึกไม่สบาย: การนอนยกศีรษะจะช่วยลดความรู้สึกไม่สบาย เช่น ปวดหัว หรือตึงหน้า

การปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้จะช่วยให้การฟื้นตัวหลังการดึงหน้าเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมติดตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การฟื้นตัวของคุณเป็นไปตามที่คาดหวัง

สนใจทำหัตถการและศัลยกรรมเกาหลี ปรึกษาที่ ลีเอนจาง โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลีชั้นนำของเอเชีย ด้วยทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์หลากหลายสาขาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้บริการในย่านท่องเที่ยวสุดฮิตของเกาหลี ทั้งสาขาคังนัม เมียงดง ฮงแด จัมชิล และอินชอน  ไม่ว่าจะเป็น ยกกระชับหน้า ทำตาสองชั้ แก้จมูกทรงเกาหลี ฉีดไขมันหน้าเด็ก เราก็พร้อมมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ ติดต่อขอรับคำปรึกษาเบื้องต้นและดูบริการของเราเพิ่มเติมได้ที่ https://thlienjang.com/

บทความล่าสุดของเรา